วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Cut Scene | Gravity 06

Cut Scene | Gravity 06





ผมถูกฝ่ามือหนาจับพลิกตัวให้นอนคว่ำก่อนที่เขาจะใช้มือกดหัวผมไว้จนหน้าแนบชิดกับผืนเตียง เขาพยายามเอื้อมหยิบอะไรบางอย่างจากลิ้นชักบริเวณหัวเตียงแต่เพราะพะวงว่าผมจะหนีจึงทำให้หยิบมันได้ยากลำบากยิ่งขึ้น และเมื่อเขาผ่อนแรงที่กดหัวของผมลง ผมจึงใช้จังหวะนั้นดันตัวให้ลุกขึ้นและใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักร่างสูงจนเซตกลงไปจากเตียง

"โอ๊ย!! จูเนียร์!"
ผมได้ยินเสียงตะหวาดดังขึ้นด้วยความโมโห แต่นั่นก็ไม่ทำให้ผมคิดจะหันหลังกลับไปแม้แต่น้อย ผมวิ่งฝ่าไปตามเส้นทางที่มองไม่เห็นจนเผลอเตะกับอะไรบางอย่างและล้มลงที่พื้นอย่างหมดสภาพ

"รังเกียจฉันมากใช่ไหม ไม่ชอบสิ่งที่ฉันทำใช่ไหม ได้! จูเนียร์"
เสียงของเขาดังอยู่ไม่ห่างจากผมนัก แต่ผมกลับไม่เห็นเขาเลยแม้แต่น้อย ทว่าความแข็งกระด้างจากฝ่ามือน่าแขยงของเขา ที่กำลังยกขาผมขึ้นสูงและปลดกางเกงของผมอย่างป่าเถื่อนกลับตอกย้ำการมีตัวตนของเขาได้เป็นอย่างดี

"อย่านะคุณแจบอม อย่าทำ!"
หัวใจผมเต้นรัวเมื่อมือของเขาจัดการถอดกางเกงของผมออก เสื้อผ้าแต่ละชิ้นที่เขาค่อยๆปลดมันออกจากร่างกายของผมทำให้ผมหนาวสั่นเพราะร่างเปลือยปะทะเข้ากับลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศ ทว่าภายในกลับร้อนระอุราวกับไฟ 

ใช้เวลาเพียงไม่นานผมก็ตกอยู่ในสภาพน่าสมเพชด้วยน้ำมือของเขาอีกครั้ง อิมแจบอมใช้มือจับข้อเท้าทั้งสองข้างของผมให้แนบชิด ก่อนที่สัมผัสเหนียวแน่นที่ติดลงมาบนผิวหนังจะทำให้ผมสะดุ้ง 

ความรัดแน่นเริ่มต้นที่ปลายเท้าก่อนที่เขาจะหมุนวนให้มันพันธนาการร่างของผมไปเรื่อยๆ เสียงฉีกของเทปกาวที่ดึงมันออกจากม้วนเพื่อเพิ่มความยาวดังขึ้นผสานกับลมหายใจรุนแรงของเขา เทปกาวแผ่นหนาม้วนวนขึ้นมาตามเนินขาพร้อมกับมือหนาที่พยายามยกขาผมขึ้นสูงเพื่อให้พันธนาการผมได้สะดวกยิ่งขึ้น และจากเรือนขาของผมเขาใช้มันพันสูงขึ้นเรื่อยๆจนลามมาเหนือเข่า อิมแจบอมยังคงใช้เทปกาวพันรอบตัวผมสูงขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน เขาลากมันผ่านขาอ่อนของผมและพันสูงขึ้นจนเทปกาวเหนียวพันส่วนกึ่งกลางลำตัวของผมที่กำลังตื่นตัวให้แนบลงอย่างขัดขืน ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก

"คุณทำบ้าอะไรของคุณ"

"หึ! ถ้าไม่ชอบที่ฉันทำ...ก็ไม่ต้องเสร็จ"

มือหนาจับท้ายทอยของผมให้ลุกขึ้นด้วยความยากลำบากเพราะตอนนี้ช่วงล่างของผมเหมือนคนเป็นอัมพาตที่ขยับไม่ได้ ก่อนที่เทปกาวนั่นจะถูกดึงออกจากม้วนเพื่อเพิ่มความยาวและม้วนวนผ่านหน้าท้องของผมอ้อมไปจนถึงแผ่นหลังก่อนจะลากแปะมันสูงขึ้นเพื่อพันธนาการแขนทั้งสองข้างของผมให้แนบชิดกับลำตัวและพันมันรอบเรือนร่างของผมเรื่อยๆจนมาสิ้นสุดที่ลำคอ

"คุณมันโรคจิต!!"
ผมตะหวาดกร้าวแม้ตอนนี้ทั้งร่างกายจะตึงและชาไปเสียหมด ตอนนี้ผมขยับไม่ได้เสียด้วยซ้ำ มีเพียงปากและดวงตาของผมที่เขาปล่อยให้มันเป็นอิสระ

"เรื่องพวกนี้ฉันเรียนรู้มาจากนายทั้งนั้น"

"ไม่จริง!"

"ถ้าไม่จริงก็อย่าเสร็จ อย่าร้องครางให้ฉันหนวกหู"
เขาพูดพลางช้อนตัวผมขึ้นจากพื้น และโยนผมลงบนโซฟาตัวหนาไม่ใช่ที่เตียงเหมือนในตอนแรก ผมพยายามดิ้นเพื่อให้เทปกาวคลายออกทว่าผมกลับหยุดการกระทำทุกอย่างเมื่อเบาะโซฟาข้างๆยวบลงราวกับมีคนทิ้งตัวลงข้างๆผม 

"นายหนีฉันไม่พ้นหรอก"
สิ้นน้ำเสียงคมเข้มตัวของผมก็ถูกยกลอยสูงจากเบาะขึ้นไปนั่งบนตักเขา ผมสะดุ้งในทันทีเมื่อบั้นท้ายเปลือยของผมสัมผัสกับอะไรบางอย่างที่ทั้งแข็งและใหญ่ ริมฝีปากร้อนผ่าวพรมจูบแผ่นหลังของผมอย่างบ้าคลั่ง แกนกายใหญ่ที่โผล่พ้นกางเกงยีนส์ตัวหนาถูไถที่บั้นท้ายของผมอย่างเร่งเร้า มันทั้งปลุกเร้าและกระตุ้นแรงอารมณ์จนผมอดไม่ได้ที่จะครางออกมา

"อ..อ๊า"

"นายนี่น่าสมเพชจังเลยนะ ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าฉันไม่อยากได้ยินเสียงครางทุเรศของนายให้หนวกหู"
ถึงปากเขาจะพร่ำพูดว่าไม่อยากได้ยินเสียงของผมทว่าร่างกายนั้นกลับสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง เขายกสะโพกของผมขึ้นเล็กน้อยก่อนจะใช้แกนกายสอดเข้าไปในช่องทางคับแคบของผมโดยไม่เปิดทางใดๆ และปล่อยตัวผมให้นั่งลงบนตักของเขาอีกครั้งจนสิ่งใหญ่โตนั้นเข้าไปมิดจนสุดลำ

"อ๊ะ! จ..แจ บ..บอม"
ผมร้องเสียงหลงและพ่นชื่อเขาออกมาอย่างตะกุกตะกักราวกับคนติดอ่าง แกนกายของผมปวดหนึบเพราะอยากปลดปล่อยทว่ามันกลับถูกเทปตรึงไว้ไม่ให้ตั้งชัน

"บอกว่าอย่าร้องไง นายบอกเองว่าไม่ชอบสิ่งที่ฉันทำไม่ใช่หรอ"

"อ๊ะ อ๊า อา"
เขาใช้มือทั้งสองข้างยกสะโพกผมให้ขยับขึ้นลงแทนการขยับสะโพกของตัวเอง แม้ในตอนแรกผมจะพยายามขัดขืนทว่าตอนนี้จิตใต้สำนึกส่วนลึกของผมสั่งการให้ผมขยับมันเองโดยไร้ซึ่งการควบคุมใดๆจากเขา

"อ๊า จูเนียร์ "
เสียงขบกรามแน่นครางเร้าในทุกจังหวะที่ผมปล่อยสะโพกลง ในขณะที่ฝ่ามือหนากลับซุกซนอยู่ที่แกนกายที่ถูกพันธนาการของผม

"อะ อ๊า อ๊ะ อ๊า"
เสียงครางของผมผสานไปกับจังหวะเสียงหยาบโลนที่ดังเป็นจังหวะ แม้อีกฝ่ายจะพร่ำบอกให้ผมหุบปากแต่ผมก็ไม่สามารถทำได้

"อ...อื้อ "
จากเสียงครางเร้ากลายเป็นเสียงอู้อี้ในทันทีเมื่ออิมแจบอมยัดอะไรบางอย่างเข้ามาในปากผม พื้นผิวของมันเป็นพลาสติกที่แข็งและแบน

"ทีนี้ก็หุบปากได้สักทีนะ"
เขาพูดข้างหูด้วยน้ำเสียงสะใจ ก่อนจะยกผมลงจากตัวและจับผมนอนคว่ำแนบไปกับผืนโซฟา มือหนายกสะโพกของผมขึ้นสูงและสอดแกนกายเข้าไปในช่องทางเดิมอีกครั้ง

"อือ อื้อออ"
ร่างกายของผมขยับไหวเอนไปตามแรงกระแทกก่อนที่อะไรบางอย่างจะหกเข้ามาในปาก มันรสชาติขมและเหม็นจนผมแทบอ้วก

ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าสิ่งที่เขายัดเยียดเข้ามาในปากของผมมันคือ...จานสี

กายหนายังคงกระทั้นเข้ามาในร่างกายของผมอย่างไม่ลดละ ในขณะที่เขาส่งเสียงครางอย่างสุขสมผมกลับต้องพะอืดพะอมกับรสชาติของสีจนแทบอ้วก

ผมพยายามคายจานสีออกจากปากอย่างแขยงก่อนจะสำลักสีที่หกเต็มปากจนอิมแจบอมตกใจ เขาหยุดการกระทำทุกอย่างก่อนจะรีบพลิกตัวผมขึ้นมา และเช็ดคราบสีที่เลอะริมฝีปากของผมออก

"นายมันชอบทำให้ฉันกลายเป็นคนโง่อยู่เรื่อยเลยนะ...จูเนียร์"
สิ้นน้ำเสียงตัดพ้อที่พูดประโยคชวนงงใส่ผม ริมฝีปากของเขาก็ครอบครองริมฝีปากที่เลอะไปด้วยสีของผมอย่างไม่ลังเล ลิ้นร้อนกวาดไล้ไปทั่วโพรงปากของผม ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่าแต่เหมือนว่าเขาพยายามดูดดึงเอาสีออกไปจากปากของผม ไม่ใช่การจูบเพื่อระบายอารมณ์ของตัวเองเหมือนครั้งก่อนๆ

ร่างหนาช้อนตัวผมขึ้นอุ้มในขณะที่ริมฝีปากยังตักตวงและแชร์รสชาติสีจากโพรงปากของผม เขาพาผมมาที่อ่างล้างหน้าก่อนจะถอนริมฝีปากออกจากผมในทันที

"ล้างปากซะ! ถ้าไม่อยากไปล้างท้องที่โรงพยาบาล"
ผมรีบตักตวงเอาน้ำสะอาดจากก๊อกบ้วนปากในทันที และดูเหมือนเขาก็กำลังทำแบบนั้นไม่ต่างจากผม

"เมื่อกี้คุณหมายความว่าไง ที่พูดว่าจูเนียร์ชอบทำให้คุณกลายเป็นคนโง่"
อยู่ๆผมก็ถามเขาออกไปเพราะความสงสัยที่ผุดขึ้นมาในหัว ถึงแม้ผมจะสำลักสีจนเกือบตายแต่ผมก็ได้ยินประโยคนั้นชัดเจน

"นายฟังผิดแล้วฉันบอกว่านายมันโง่ต่างหาก"

"ไม่ใช่! ผมได้ยินเต็มสองหู"

"บอกว่าไม่ใช่ไง ออกไปได้แล้ว ฉันรำคาญ!!"

"คุณจะบ้าหรือเปล่า คุณคงลืมไปแล้วสินะว่าคุณทำอะไรไว้กับผม"
ผมตะหวาดอย่างหัวเสีย เขาคงลืมไปแล้วว่าเขาใช้เทปพันร่างของผมจนเหมือนคนเป็นอัมพาตทั้งตัวแล้วยังมีหน้ามาตะโกนไล่ให้ผมออกไปจากห้องอีก

อิมแจบอมพ่นลมหายใจออกมาแรงๆเหมือนเพิ่งคิดออก ก่อนจะอุ้มผมขึ้นไปนั่งบนอ่างล้างหน้า ซึ่งมันก็สูงจนขาผมลอยขึ้นเหนือพื้น ก่อนที่ผมจะตกใจจนแทบอุทานออกมาเมื่อร่างสูงทรุดตัวลงก่อนจะยกเท้าผมขึ้นแกะจุดเริ่มต้นของเทปกาวที่ฝ่าเท้า

ความเหนียวที่ยึดติดกับผิวหนังทำให้ผมแสบเล็กน้อยที่มันถูกดึงออกไปจากผิวหนังและดึงเอาขนตามร่างกายของผมไปด้วย แม้ว่ามือหนาจะค่อยๆลอกแผ่นเทปออกอย่างใจเย็น

อิมแจบอมจัดการจากฝ่าเท้า ต่อมาที่แข้งขา ก่อนจะลากไล้ขึ้นมาจนถึงต้นขาของผมและจัดการดึงเทปกาวออกจากจุดที่ทำให้ผมเสียวที่สุดจนผมร้องครางออกมา

"อ๊าาา"

"ฉันบอกว่าอย่าครางให้ฉันได้ยิน"

"ทำไม! คุณจะเอาจานสียัดปากผมอีกหร--"

"เพราะฉันจะเปลี่ยนใจไม่ปล่อยนายกลับห้อง เมื่อกี้ฉันยังไม่เสร็จ"
เขาพูดตัดบทจนผมได้แต่อ้าปากพะงาบพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้าง หลังจากนั้นทั้งเขาและผมก็เงียบจนกระทั่งเขาแกะเทปกาวทั้งหมดออกจากเรือนร่างของผม

"ทีนี้ก็ออกไปจากห้องฉัน"

"ด...เดี๋ยว!!"
ผมร้องห้ามทันทีที่รู้ว่าร่างสูงกำลังหันกลับไป ถึงแม้ในห้องน้ำจะไม่เปิดไฟเหมือนห้องอื่นๆแต่แสงจากด้านนอกยังคงสาดเข้ามาบ้าง นั่นทำให้ผมพอจะมองเห็นเขาแต่ก็ไม่ชัดนัก 

"............"
ความเงียบของเขาราวกับรอฟังสิ่งที่ผมกำลังพูด ผมพยายามควบคุมน้ำเสียงไม่ให้ตะกุกตะกัก ก่อนจะยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่ซึมขึ้นมาบริเวณขมับ ตอนนี้ร่างกายของผมร้อนผ่าวและปวดหนึบบริเวณกึ่งกลางลำตัว ผมรู้ดีว่าผมต้องการอะไรแต่มันน่าอายเกินกว่าจะเอ่ยขอกับเขา 

แล้วยิ่งเป็นคนอย่างอิมแจบอม คนที่พร่ำพูดว่าผมน่าสมเพช ผมก็ยิ่งอายที่จะร้องขอกับเขา

"ค..คือ..ผม"

"หึ! ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันรู้ว่านายต้องการอะไร"
.
.
.
"เพราะฉันรู้จักนายดีกว่าใคร...จูเนียร์"

สิ้นเสียงร่างหนาก็โถมเข้าหาผมด้วยความโหยหา ก่อนที่ทั้งเขาและผมจะสะสางเรื่องที่ค้างคาของเราทั้งสองต่อจนจบ...ที่ห้องน้ำ


                                             #ฟิคปิดตา




















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น